Saturday, February 5

Anuttara


โดยนัยเป็นต้นว่า เสกขธรรม อเสกขธรรม โลกุตรธรรม ดังนี้ก็มี ท่าน
อธิบายว่า ธรรมที่ควรบูชา ตรัสธรรมทั้งหลายที่ทรงกำหนดไว้ เพราะเป็น
ธรรมที่กำหนดโดยสภาวะ โดยนัยเป็นต้นว่า ผัสสะย่อมมี เวทนาย่อมมี
ดังนี้ก็มี และตรัสธรรมทั้งหลายอันยิ่ง โดยนัยเป็นต้นว่า มหัคคตธรรม
อัปปมาณธรรม อนุตรธรรมอนุตตรธรรม ดังนี้ก็มี ด้วยเหตุนั้น เพื่อความฉลาดใน
อรรถแห่งการกล่าวถึงพระอภิธรรมนี้ ท่านจึงประพันธ์คาถาไว้ว่า
ยํ เอตฺถ วุฑฺฒิมนฺโต สลกฺขณา ปูชิตา ปริจฺฉินฺนา
วุตฺตาธิกา จ ธมฺมา อภิธมฺโม เตน อกฺขาโต
พระอภิธรรม บัณฑิตกล่าวว่า พระ-
อภิธรรม เพราะเหตุที่พระอภิธรรมนี้ พระ-
ผู้มีพระภาคเจ้าตรัสถึงธรรมที่เจริญ ๑ ธรรม
ที่ควรกำหนด ธรรมที่ควรบูชา ๑ ธรรม
กำหนด (แยก) ไว้ ๑ และธรรมที่ยิ่ง ๑
.

ว่าด้วยความหมายที่ไม่ต่างกันของปิฎก

อนึ่ง ในปิฎกทั้ง ๓ นี้ บัณฑิตผู้รู้อรรถแห่งปิฎกศัพท์กล่าวว่า คำว่า
ปิฎก ที่ไม่แตกต่างกันนั้นว่า ชื่อว่า ปิฎก เพราะอรรถว่าเป็น ปริยัติ และ
ภาชนะ (เครื่องรองรับ) บัดนี้ พึงประมวลปิฎกศัพท์นั้นเข้าด้วยกันแล้ว
ทราบปิฎกแม้ทั้ง ๓ มีวินัยเป็นต้น.
จริงอยู่ แม้ปริยัติ ท่านก็เรียกว่า ปิฎก (ตำรา) เหมือนใน
ประโยคมีอาทิว่า มา ปิฏกสมฺปทาเนน อย่าเชื่อโดยอ้างตำรา แม้
ภาชนะอย่างใดอย่างหนึ่ง ก็เรียกว่า ปิฎก เหมือนในประโยคมีอาทิว่า

Insert Table

   🔠  ₅₅

No comments:

Blog Archive

Phra Ratana Kosin Sok Thi 236 —239