เสียแล้ว เรือนยอดเราก็รื้อออกแล้ว จิตของ
เราถึงวิสังขาร (คือพระนิพพาน) ถึงความ
สิ้นไปแห่งตัณหาทั้งหลายแล้ว.
พระดำรัสที่พระผู้มีพระภาคเจ้าผู้ทรงไสยาสน์ในระหว่างต้นสาละคู่ ใน
สมัยใกล้ปรินิพพานตรัสไว้ว่า หนฺททานิ ภิกฺขเว
ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย เอาเถอะ ตถาคตจักเตือนเธอทั้งหลายว่า สังขารทั้งหลาย
มีความเสื่อมสิ้นไปเป็นธรรมดา พวกเธอทั้งหลายจงถึงพร้อมด้วยความไม่ประ-
มาทเถิด ดังนี้ ชื่อว่า ปัจฉิมพุทธพจน์.
พระสัทธรรมที่ประกาศอมตะที่พระองค์ตรัสไว้ ๔๕ พรรษาในระหว่าง
พระพุทธพจน์ทั้งสอง เหมือนนายมาลาการร้อยพวงดอกไม้ และเหมือนช่าง
แก้วร้อยพวงแก้ว ชื่อว่า มัชฌิมพุทธพจน์ พระพุทธพจน์นั้นแม้ทั้งหมด
เมื่อประมวลเข้าด้วยกัน โดยปิฎกเป็น ๓ ปิฎก โดยนิกายเป็น ๕ นิกาย โดย
องค์มีองค์ ๙ โดยธรรมขันธ์ได้ ๘๔,๐๐๐ พระธรรมขันธ์.
อย่างไร. จริงอยู่ พระพุทธพจน์นี้แม้ทั้งหมด โดยปิฎกมี ๓ประเภทเท่านั้น
คือ วินัยปิฎก สุตตันตปิฎก อภิธรรมปิฎก. บรรดาปิฎกทั้ง ๓ นั้นพระพุทธ-
พจน์นี้คือ ปาฏิโมกข์ทั้งสอง วิภังค์ทั้งสอง ขันธกะ ๒๒ ปริวาร ๑๖ ชื่อว่า
วินัยปิฎก.
พระพุทธพจน์นี้ คือ ทีฆนิกายซึ่งรวบรวมพระสูตรไว้ ๓๔ สูตรมีพรหม
ชาลสูตรเป็นต้น มัชฌิมนิกายซึ่งรวบรวมพระสูตรไว้ ๑๕๒ สูตร มีมูลปริยาย-
สูตรเป็นต้น สังยุตตนิกายซึ่งรวบรวมพระสูตรไว้ ๗,๗๖๒ สูตร มีโอฆตรณ-
สูตรเป็นต้น อังคุตตรนิกายซึ่งรวบรวมพระสูตรไว้ ๙,๕๕๗ สูตร มีจิตต-
ปริยายสูตรเป็นต้น ขุททกนิกายมี ๑๕ ประเภท คือ ๑. ขุททกปาฐะ
No comments:
Post a Comment