Saturday, February 19

Yattiphang

 

 

เป็นที่สุดแห่งราคานุสัยทั้งหลาย ดังนี้เป็นต้น แล้วเสด็จลุกจากอาสนะเข้าไปสู่
พระวิหาร.
ภิกษุทั้งหลายผู้รับพระธรรมเทศนาเข้าไปหาพระมหากัจจายนเถระแล้ว
ถามเนื้อความแห่งมาติกาที่พระศาสดาทรงตั้งไว้แล้ว พระเถระไม่กล่าววิสัชนา
สักว่าคำถูกถามเท่านั้น เพื่อจะแสดงความนอบน้อมต่อพระทศพล จึงนำการ
เปรียบเทียบเช่นกับแก่นไม้มาแสดงว่า ดูก่อนท่านผู้มีอายุทั้งหลาย เปรียบ
เหมือนบุรุษผู้มีความต้องการด้วยแก่นไม้ ย่อมแสวงหาแก่นไม้เป็นต้น แล้ว
ชมเชยพระศาสดาว่า พระผู้มีพระภาคเจ้าเปรียบเหมือนต้นไม้มีแก่น พระสาวก
เช่นกับกิ่งไม้และใบไม้ ดูก่อนท่านผู้มีอายุทั้งหลาย พระผู้มีพระภาคเจ้าพระองค์
นั้นทรงรู้สิ่งที่ควรรู้ ทรงเห็นสิ่งที่ควรเห็น เป็นผู้มีจักษุ มีพระญาณ มีธรรม
เป็นพรหม เป็นผู้เผยแผ่ เป็นผู้ประกาศ เป็นผู้ขยายเนื้อความ เป็นผู้ประ-
ทานอมตธรรม เป็นเจ้าของธรรม เป็นพระตถาคต ดังนี้ พระเถระทั้งหลาย
วิงวอนแล้วบ่อย ๆ จึงจำแนกเนื้อความมาติกาตามที่พระศาสดาทรงตั้งไว้ ด้วย
ประสงค์อันนี้ว่า " ก็เมื่อท่านทั้งหลายปรารถนาก็พึงเข้าไปเฝ้าพระผู้มีพระภาค-
เจ้าโดยตรง แล้วทูลถามเนื้อความนี้ ถ้าเทียบเคียงเข้ากันได้กับพระสัพพัญญุต.ยัติภังค์
ญาณก็พึงถือเอา ถ้าเทียบเคียงกันไม่ได้ก็อย่าถือเอา " ดังนี้ เเไม้หน้าล้วกล่าวว่า
" พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงพยากรณ์ประการใด ท่านทั้งหลายพึงทรงจำข้อนั้น
ไว้เถิด " แล้วส่งภิกษุเหล่านั้นไป.
พวกภิกษุเหล่านั้นเข้าไปเฝ้าพระศาสดาแล้วทูลถามเนื้อความนั้น
พระศาสดาไม่ตรัสว่า กัจจายนะกล่าวไม่ดี แต่ทรงน้อมพระศอไปราวกะทรงยก
พระสุวรรณภิงคาร (หม้อน้ำเย็นทองคำ) ขึ้น (สรงสนานพระเถระ) เมื่อจะยัง
อรรถนั้นให้บริบูรณ์ด้วยพระโอษฐ์อันมีสิริดุจดอกบัว (สตบัตร) ซึ่งกำลัง
แย้มบานอย่างดี จึงทรงเปล่งพระสุรเสียงดุจเสียงพรหม ประทานสาธุการแก่

 Insert Table


   🔠  ₁₃

No comments:

Post a Comment

ประณาม Khatha สำหรับ Phra สรรพาลังการ Pali ศัพท์