Friday, February 11

Achatakat

 

 

เหล่าใด พระรัศมีสีแดงเหล่านั้น ซ่านออกแล้วจากพระมังสะ พระโลหิต
และที่สีแดงแห่งพระเนตรทั้งสอง.
ทิศาภาคทั้งหลายรุ่งโรจน์แล้ว เหมือนเกลื่อนกล่นด้วยขีรธาราที่เท
ออกจากหม้อเงิน เหมือนเพดานแผ่นเงินที่เขาขึงไว้ เหมือนขั้วตาลเงินที่แกว่ง
ไปมา เหมือนดาดาษด้วยดอกคล้า ดอกโกมุท ดอกย่างทราย ดอกมะลิวัลย์
ดอกมะลิซ้อนเป็นต้น ด้วยสามารถแห่งรัศมีสีขาวเหล่าใด รัศมีสีขาวเหล่านั้น
ซ่านออกแล้วจากพระอัฐิทั้งหลาย จากพระทนต์ทั้งหลาย และจากที่
สีขาวแห่งพระเนตรทั้งสอง.
ส่วนพระรัศมีสีหงสบาทและเลื่อมประภัสสร ก็ซ่านออกจากส่วนแห่ง
พระสรีระนั้น ๆ พระฉัพพรรณรังสีเหล่านั้นออกแล้วจับมหาปฐพีใหญ่อัน
หนาทึบ ด้วยประการฉะนี้ มหาปฐพีอันหนาถึง ๒๔๐,๐๐๐ โยชน์ ได้เป็น
เหมือนก้อนทองคำที่เขาขจัดมลทินแล้ว พระรัศมีทั้งหลายเจาะทะลุแผ่นดิน
ลงไปจับน้ำในภายใต้ น้ำซึ่งรองแผ่นดินหนาถึง ๔๘๐,๐๐๐ โยชน์ ได้เป็น
เหมือนทองคำที่ไหลคว้างออกจากเบ้าทอง พระรัศมีเหล่านั้นเจาะน้ำลงไปจับ
ลม ลมหนา ๙๖๐,๐๐๐ โยชน์ ได้เป็นเหมือนแท่งทองคำที่ยกขึ้นแล้ว พระ-
รัศมีทั้งหลายเจาะลมแล้วแล่นไปสู่อัชชฎากาศ (อากาศเวิ้งว้าง) ภายใต้.
ว่าด้วยส่วนเบื้องบน พระรัศมีทั้งหลาย แม้พุ่งขึ้นไปแล้วจับอยู่ที่จาตุ-
มหาราชิกา เจาะแทงตลอดจาตุมหาราชิกาไปจับชั้นดาวดึงส์ จากนั้นก็ไปยามา
ดุสิต นิมมานรดี ปรนิมมิตวสวัตดี จากนั้นก็ไปพรหมโลก ๙ ชั้น จากนั้นก็
ไปเวหัปผลา จากนั้นก็ไปปัญจสุทธาวาส จับอรูปทั้ง ๔ เจาะ (แทงตลอด)
อรูปทั้ง ๔ แล้วแล่นไปสู่อัชชฎากาศอัชชฏากาศ (อากาศเวิ้งว้าง).

 Insert Table


   🔠  ₃₇

No comments:

Blog Archive

Phra Ratana Kosin Sok Thi 236 —239