ครั้งนั้น พระโพธิสัตว์เป็นพระเจ้าจักรพรรดิ พระนามว่า วิชิตาวี
ได้ถวายมหาทานแก่หมู่ภิกษุมีพระพุทธเจ้าเป็นประมุขมีประมาณนับได้แสนโกฏิ
พระศาสดาได้พยากรณ์พระโพธิสัตว์ว่า จักเป็นพระพุทธเจ้าแล้วแสดงธรรม.
พระโพธิสัตว์นั้น ทรงสดับธรรมกถาของพระศาสดาแล้ว ทรงมอบราชสมบัติ
ออกผนวช (บวช) ทรงศึกษาพระไตรปิฎก ทรงให้สมาบัติ ๘ และอภิญญา ๕
ให้เกิดขึ้น มีฌานไม่เสื่อมแล้วทรงอุบัติขึ้นในพรหมโลก.
ก็พระนครของพระผู้มีพระภาคพุทธเจ้า พระนามว่า โกณฑัญญะ นั้น
ชื่อว่า รัมมวดี พระมหากษัตริย์ พระนามว่า สุนันทะ เป็นพระราชบิดา
พระนางเทวี พระนามว่า สุชาดา เป็นพระมารดา พระภัททเถระและสุภัททเถระ
เป็นอัครสาวก พระเถระนามว่า
พระอุปติสสาเถรี เป็นคู่อัครสาวิกา มีไม้ที่ตรัสรู้ชื่อว่า สาลกัลยาณี พระสรีระ
ของพระมหามุนีนั้นสูง ๘๘ ศอก พระองค์มีพระชนมายุแสนปี.
จบโกณฑัญญกถา
มังคลกถาที่ ๓
ในสมัยอื่นอีก เมื่อพระโกณฑัญญพุทธเจ้าปรินิพพานล่วงไปแล้ว
ประมาณหนึ่งอสงไขย ในกัปเดียวนั้นเอง มีพระพุทธเจ้าเสด็จอุบัติขึ้น ๔
พระองค์ คือ พระมังคลพุทธเจ้า พระสุมนพุทธเจ้า พระเรวตพุทธเจ้า
และพระโสภิตพุทธเจ้า. ก็ในศาสนาของพระผู้มีพระภาคเจ้าพระนามว่า มัง-
คละ มีสาวกมหาสันนิบาต ๓ ครั้ง ในมหาสันนิบาต ครั้งที่หนึ่ง มีภิกษุมาประชุม
No comments:
Post a Comment