ว่าด้วยปริตตารัมมณติกะที่ ๑๓
พึงทราบวินิจฉัยในหมวด ๓ แห่งปริตตารัมมณธรรม ต่อไป.
ธรรมที่ชื่อว่า ปริตตารัมมณะ เพราะอารมณ์ของธรรมเหล่านี้เล็ก
น้อยแม้ใน ๒ บทที่เหลือ ก็นัยนี้แหละ.
ว่าด้วยหีนติกะที่ ๑๔
พึงทราบวินิจฉัยในหมวด ๓ แห่งหีนธรรม ต่อไป.
บทว่า หีนา ได้แก่ ลามก คือ อกุศลธรรม. ธรรมทั้งหลายมีใน
ท่ามกลางแห่งธรรมอันลามกและประณีต มีอยู่ เพราะเหตุนั้น ธรรมเหล่านั้น
จึงชื่อว่า มัชฌิมา คือ
โลกุตระ ชื่อว่า ธรรมอันประณีต เพราะอรรถว่าสูงสุด และอรรถว่า
ชุ่มชื่นยิ่ง ไม่เร่าร้อน.
ว่าด้วยมิจฉัตตติกะที่ ๑๕
พึงทราบวินิจฉัยในหมวด ๓ แห่งมิจฉัตตธรรม ต่อไป.
ธรรมที่ชื่อว่า มิจฉัตตะ เพราะอรรถว่า ชนทั้งหลายแม้มีความหวัง
อย่างนี้ว่า ธรรมเหล่านี้จักนำประโยชน์และความสุขมาให้แก่เรา ดังนี้ ก็ไม่ได้
เหมือนอย่างนั้นเลย เพราะภาวะของตนเป็นความเห็นผิดจากความเป็นไปอัน
วิปริต แม้ในอสุภะเป็นต้นว่าเป็นสุภะเป็นต้น. เมื่อการให้วิบากมีอยู่ ธรรม
เหล่านั้น จึงชื่อว่า นิยตะ เพราะการให้วิบากในระหว่างแห่งการทำลายขันธ์
นั่นแหละ ธรรมทั้งหลายเหล่านั้น เป็นมิจฉัตตะด้วยเป็นนิยตะด้วย เพราะ
เหตุนั้น จึงชื่อว่า มิจฉัตตนิยตา. ธรรมที่ชื่อว่า สัมมัตตะ เพราะอรรถว่า
เป็นสภาวะโดยชอบด้วยอรรถอันผิดจากมิจฉัตตะที่กล่าวแล้ว ธรรมเหล่านั้น
No comments:
Post a Comment